Saturday, September 1, 2012

ของขวัญปีใหม่ที่ยิ่งใหญ่


  ในช่วงปีใหม่ที่กำลังใกล้มาถึง หลายประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย และเกาหลีใต้ รณรงค์ให้คนมอบของขวัญเทศกาลปีใหม่ด้วยการบริจาคเลือด เพราะเป็นของขวัญที่ไม่ต้องเสียเงินซื้อ เหมาะกับสภาพเศรษฐกิจที่ฝืดเคืองในปัจจุบัน

ที่สำคัญที่สุดคือเป็นสุดยอดแห่งของขวัญเพราะสามารถช่วยรักษาชีวิตเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน

การบริจาคเลือดเป็นของขวัญนั้นถือเป็นการให้ของขวัญแห่งชีวิต ที่อเมริกามีสโลแกนรณรงค์การบริจาคเลือดว่า Give Blood : The Gift of Life

เลือดที่เราบริจาค 1 ถุง จำนวน 350-450 มิลลิลิตร สามารถช่วยชีวิตเพื่อนมนุษย์ได้ถึง 3 คน

เป็นเรื่องที่น่าภูมิใจสำหรับผู้บริจาคเป็นอย่างยิ่งเพราะการสละเวลาเพียงไม่ถึงชั่วโมงเพื่อบริจาคเลือดสามารถต่อชีวิตคนได้อีกหลายสิบปี


ยามที่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงเราอาจไม่นึกถึงว่าเลือดมีความสำคัญขนาดไหน แต่เมื่อไหร่ที่ตัวเราหรือคนในครอบครัวเจ็บป่วยและต้องรอรับเลือดบริจาค เราจะทราบว่าการบริจาคเลือดมีความสำคัญกับชีวิตมากมายเพียงใด

25 เปอร์เซ็นต์ของคนในโลก อย่างน้อยครั้งหนึ่งในชีวิตต้องการเลือดจากการบริจาคเพื่อรักษาชีวิต จำนวน 1 ใน 10 ของคนที่เข้าโรงพยาบาลต้องการเลือด ซึ่งเลือดไม่สามารถผลิตได้ ต้องรอจากการบริจาคเท่านั้น

โดยปกติคนมีเลือดในร่างกายประมาณ 4,000-5,000 ซีซี การบริจาคแต่ละครั้ง จะบริจาคเพียง 350 - 450 ซีซี หรือประมาณ 6-7 เปอร์เซ็นต์ของเลือดทั้งหมดในร่างกาย ช่วยกระตุ้นให้ไขกระดูกสร้างเม็ดโลหิตใหม่ๆ ออกมาชดเชยให้มีระดับเท่าเดิม ภายใน 7-14 วัน

สำหรับผู้มีสุขภาพสมบูรณ์อายุระหว่าง 17-60 ปี สามารถบริจาคโลหิตได้ทุกๆ 3 เดือน



ลีคิ ซึง (Lee Ki Sueng) ศิลปินหนุ่มชาวเกาหลีใต้ออกแบบถุงบริจาคเลือดไว้น่ารัก เป็นรูปถุงเท้าที่แขวนไว้รอของขวัญวันคริสต์มาสจากซานตาคลอส โดยได้นำถุงบริจาคเลือดทรงถุงเท้านี้ออกแสดงในนิทรรศการงานศิลปะ Helsinki Design Week ที่ประเทศฟินแลนด์ ซึ่งจัดขึ้นเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา

ตามธรรมเนียม ในคืนวันคริสต์มาส อีฟ หรือวันที่ 24 ธันวาคม เด็กๆ จะนำถุงเท้าที่มีชื่อตัวเองติดไว้ไปห้อยหน้าเตาผิงเพราะเชื่อว่าซานตาคลอสจะแอบนำของขวัญมาหย่อนใส่ถุงเท้า


ถุงบริจาคเลือดรูปทรงถุงเท้าของ ลี คิ ซึง ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก เพราะสื่อความหมายถึงการให้เลือดในช่วงเทศกาลคริสต์มาส

ทางผู้จัดงาน Helsinki Design Week ได้เขียนข้อความรณรงค์การบริจาคเลือดว่า เมื่อเรานำของขวัญใส่ในถุงเท้าให้คนอื่น สักวันของขวัญก็จะกลับมาหาเรา

คริสต์มาสมักจะเป็นช่วงเวลาที่คนมักมองว่าเป็นช่วงเวลาของคนมีเงิน ความร่ำรวยและความมีสุขภาพดี ทำให้ลืมนึกถึงคนที่ไม่สมบูรณ์ คนพิการ คนที่มีปัญหาสุขภาพ และคนยากไร้ การบริจาคเลือดจึงนับเป็นการแบ่งปันความสุข ช่วยเหลือกัน สามารถรักษาชีวิตผู้อื่น ถือเป็นที่สุดของการให้

ช่วงนี้กระแสภาพยนตร์แวมไพร์ ทไวไลท์ ภาค 4 เบรกกิ้ง ดอว์น (Breaking Dawn) กำลังมาแรง ทำรายได้ทั่วโลกเกือบ 500 ล้านดอลลาร์ หรือ 15,500 ล้านบาท

สถานที่รับบริจาคโลหิตหลายแห่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่มหาวิทยาลัยในสหรัฐอเมริกามีการโปรโมตการบริจาคเลือดให้เข้ากับกระแสแวมไพร์ดูดเลือดด้วยการให้ตั๋วภาพยนตร์ชมแวมไพร์ ทไวไลท์ ฟรี แก่ผู้บริจาคโลหิต

การบริจาคเลือดจึงเป็นของขวัญปีใหม่ เป็นการให้ที่ยิ่งใหญ่ สร้างความอิ่มเอมใจแก่ผู้ให้ และมอบชีวิตใหม่ให้แก่ผู้รับ

No comments:

Post a Comment